รอยยิ้มบนคราบน้ำตา จัดอันดับ 5 เหตุการณ์ที่สุดแห่งความทรงจำ ฟุตบอลโลก 2018
ในทุกๆ 4 ปี นับตั้งแต่ศึก เวิลด์ คัพ เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกปี 1930 เราจะได้เห็นความพิเศษที่แตกต่างกันออกไปในทุกๆ ครั้งนะครับ นั่นคือสิ่งที่สร้างความทรงจำให้กับแฟนๆ ได้ระลึกถึง
โศกนาฏกรรมน้ำตาท่วมตาแฟนๆ บราซิล ที่ มาราคาน่า เวิลด์ คัพ 1950 – มิราเคิ่ล ออฟ เบิร์น เวิลด์ คัพ 1954 – ปรากฏการณ์ ยูเซบิโอ้ และแชมป์โลกสมัยแรกของ อังกฤษ เวิลด์ คัพ 1966 – ราชันไร้มงกุฎของ ฮอลแลนด์ เวิลด์ คัพ 1974 – ยุคแห่งมาเฟีย เวิลด์ คัพ 1978 เรื่อยมาจนถึงการแนะนำบอลโลกแบบอู้ฟู่สู่ อเมริกา และ เอเชีย ในปี 1994 และ 2002
เช่นเดียวกับศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ รัสเซีย เราก็ได้เนื้อเต้นฮือฮา เห็นอะไรเร้าใจใหม่ๆ มากมาย ซึ่งนอกเหนือจากการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของ ฝรั่งเศส แล้ว – วันนี้เราจะขอคัด “ที่สุดของที่สุด” 5 เหตุการณ์ ที่จะทำให้ศึก เวิลด์ คัพ ฉบับ “หมีขาว” กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดไปตลอดกาล ส่วนจะมีอะไรบ้าง ? เราไปติดตามกันเลยครับ
![injury time goal](https://acebet99.co/wp-content/uploads/2018/07/injury-time-goal.jpg)
1. ปรากฏการณ์รัวยิงทดเจ็บ ตายสนิทวินาทีสุดท้าย
ถ้าคุณเป็นแฟน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุณจะรู้จักสิ่งนี้ดีในยุค “เฟอร์กี้ ไทม์” ที่ประตูมักจะเกิดขึ้นเสมอในช่วงนาที 90 หรือไม่ก็ทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งในศึก เวิลด์ คัพ ครั้งนี้ เราได้เห็นทั้งความดีใจและภาพที่เจ็บปวดสุดๆ จากประตูในช่วงเวลาทดเวลาบาดเจ็บมากมายเหลือเกิน และมันเยอะจนถึงขั้นเกิดเป็นสถิติใหม่ที่ 23 ประตู! (ไม่นับนัดชิงชนะเลิศและนัดชิงที่ 3 ที่เหลืออยู่) ซึ่งมากกว่า เวิลด์ คัพ 2014 ถึงราวๆ 2 เท่า แถมยังมีการเอาเทคโนโลยี VAR มาใช้เป็นครั้งแรก ช่วยเพิ่มยอดประตูในจังหวะอื่นๆ ของเกมอีกด้วยเช่นกัน
![](https://acebet99.co/wp-content/uploads/2018/07/Messi.jpg)
2. ยักษ์ล่มปากอ่าว ชิงร่วงไก่โห่
ตามปกติแล้ว เราเคยได้เห็นชาติยักษ์ใหญ่ร่วงตกรอบกันอยู่เสมอ แต่มันไม่ใช่การร่วงระเนระนาดเป็นหมู่คณะมากมายเหมือนในครั้งนี้ แถมยังมีผู้คนรุมสมน้ำหน้ากันไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เยอรมัน ที่ร่วงตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เรื่อยมาถึง อาร์เจนตินา ที่สร้างชื่อเน่าๆ ให้ ฮอร์เก้ ซามเปาลี และลูกเลิฟ เมซ่า , ปาวอน และ ทายาฟิโก้ เช่นเดียวกับ อวสาน ตีกี้ ตาก้า ของ สเปน ที่ร่วงรอบ 16 ทีมสุดท้าย แบบบื่อสุดๆ เคาะบอลแบบไม่มีจุดหมายกันจนแฟนๆ หลับปุ๋ย
![](https://acebet99.co/wp-content/uploads/2018/07/England.jpg)
3. มหัศจรรย์ลูกตั้งเตะแข้งลูกกรอก สิงโตคำราม
แม้จะเป็นชาติยักษ์ใหญ่ในเวทีระดับโลกมาตลอด แต่ถึงกระนั้น ทีมชาติอังกฤษ ในยุค แกเร็ธ เซาธ์เกต กลับโดนมองเป็นเพียงแค่ทีมดาดๆ นอกสายตาในช่วงก่อนเริ่มการแข่งขัน เนื่องด้วยขุมกำลังแสนขี้เหร่ แถมประสบการณ์น้อยสุดๆ แต่ทุกอย่างกลับพลิกล็อคระเนระนาด เมื่อทัพ “สิงโตคำราม” เล่นกันได้อย่างดุดันเป็นระบบ แถมยังคืนสู่รากเหง้าด้วยการเอาอาวุธลูกเซตพีซมาใช้งาน เดินหน้าไล่อัดคู่แข่งทีมแล้วทีมเล่าด้วยลูกเตะมุม ลูกโหม่ง และจุดโทษ จนสร้างประวัติศาสตร์เข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่สุดท้ายจะไปพ่าย โครเอเชีย ในที่สุด
![](https://acebet99.co/wp-content/uploads/2018/07/host-300x162.jpg)
4. เจ้าบ้าน เซอร์ไพรซ์ ต้อนรับประทับใจ ไร้เหตุวุ่นวาย
ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม ทุกคนต่างก็เป็นกังวลกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าภาพ และยังไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าประชาชนชาวรัสเซีย จะให้การต้อนรับแขกข้านแขกเมืองได้ดีขนาดไหน แต่ผลลัพธ์กลับออกมาน่าประทับใจอย่างเหลือเชื่อ เมื่อผู้คนทั้งหมดต่างยิ้มแย้มให้กัน และแทบไม่มีเหตุทะเลาะตีกันให้เจ้าหน้าที่ได้วุ่นวายใจเลย ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของ รัสเซีย ที่มั่นใจตั้งแต่แรกว่าประเทศของเขาพร้อมต้อนรับแขกเหรื่อทุกคนจริงๆ และทำให้ รัสเซีย สร้างเสน่ห์กลายเป็นดินแดนที่ผู้คนอยากจะกลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง
![](https://acebet99.co/wp-content/uploads/2018/07/Croatia.jpg)
5. เปิดซิง โครเอเชีย ตำนานม้ามืดตัวแรกที่เข้าถึงนัดชิงบอลโลก
สุดท้ายนี้ เราคงต้องยกให้ โครเอเชีย คือที่สุดของที่สุดแห่งความพีคประจำศึก เวิลด์ คัพ 2018 อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาจะถูกพูดถึงไปตลอดกาลตราบชั่วลูกชั่วหลานว่าคือชาติม้ามืดทีมแรกและทีมเดียวในประวัติศาสตร์เวทีฟุตบอลโลก ที่กล้าอาจหาญถึงขั้นทะลุเข้าชิงแชมป์ที่ ลุซนิกิ สเตเดี้ยม โดยถึงแม้จะพ่ายให้กับทีมชาติฝรั่งเศส 2-4 แต่พวกเขาก็สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีย์ กลายเป็นทีมนอกสายตาที่ทะลุเข้ารอบมาได้ไกลที่สุดในประวัติศาสตร์ เวิลด์ คัพ ในแบบที่ไม่เคยมีชาติไหนทำได้มาก่อน
นั่นคือเหตุการณ์ไฮไลท์ทั้งหมดที่จะถูกจดจำไปอีกนานแสนนานในศึก เวิลด์ คัพ หนล่าสุดนี้ครับ ส่วนครั้งต่อไปที่ กาตาร์ จะมีอะไรมาฝากเราบ้าง ? ขอให้ทุกคนจงอดทนเฝ้ารออย่างใจเย็นในอีก 4 ปีข้างหน้าครับผม